กู่หลงเปา ร้านซาลาเปาแต้จิ๋ว สูตรโบราณตำนานกว่า 100 ปีย่านเยาวราช
ซาลาเปาแต้จิ๋ว ชวนลัดเลาะตามซอยไปในย่านสำเพ็ง ย่านค้าขายที่มีร้านเก่าแก่ซ่อนตัวอยู่เพียบ รวมถึง ‘เตียท่งเซ้ง’ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ ‘กู่หลงเปา’ ซาลาเปาโบราณย่านเยาวราช ที่สานต่อความอร่อยของซาลาเปาแต้จิ๋วสูตรโบราณมายาวนานกว่า 4 รุ่นร่วม 100 ปี จากร้านเตียท่งเซ้ง จนออกมาเป็นร้านซาลาเปาที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติ กรรมวิธีการทำซาลาเปาแบบดั้งเดิม และเรื่องราวต่างๆ ที่ยาวนานกว่าร้อยปี ที่เชิญชวนให้สายกินตามไปลิ้มลอง
ชวนลัดเลาะตามซอยไปในย่านสำเพ็ง ย่านค้าขายที่มีร้านเก่าแก่ซ่อนตัวอยู่เพียบ รวมถึง ‘เตียท่งเซ้ง’ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ ‘กู่หลงเปา’ ซาลาเปาโบราณย่านเยาวราช ที่สานต่อความอร่อยของซาลาเปาแต้จิ๋วสูตรโบราณมายาวนานกว่า 4 รุ่นร่วม 100 ปี จากร้านเตียท่งเซ้ง จนออกมาเป็นร้านซาลาเปาที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติ กรรมวิธีการทำซาลาเปาแบบดั้งเดิม และเรื่องราวต่างๆ ที่ยาวนานกว่าร้อยปี ที่เชิญชวนให้สายกินตามไปลิ้มลอง
ความโดดเด่นของซาลาเปาในชื่อเตียท่งเซ้งนั้นอยู่ตรงที่เป็น ‘ซาลาเปาสูตรแต้จิ๋ว’ ที่มีกรรมวิธีทำมือแบบโบราณ ซึ่งต้องอาศัยความพิถีพิถัน ที่ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ แต่ถึงแม้จะเป็นงานฝีมือที่ไม่ใช่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่ ‘อากู๋เซ็ง’ ก็รับบทบาทเป็นแรงหลักในการทำซาลาเปาแต้จิ้วนี้มาไม่ต่ำกว่า 40 ปีแล้ว
ซาลาเปาแต้จิ๋วของทางร้านจะเป็นซาลาเปาแป้งสีเหลืองนวลจากมันเทศ และมันเทศนี้เองที่ทำให้ซาลาเปามีทั้งความนุ่มและมีรสชาติหวานแบบธรรมชาติ ถึงแม้จะทานไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่เหนียวติดใจ แต่เป็นที่ติดใจของใครหลายคน
กิจวัตรประจำวันของอากู๋เซ็งจะเริ่มต้นตั้งแต่เช้าที่ต้องเริ่มนวดแป้ง จากนั้นนำแป้งมาผสมกับมันเทศ ถึงแม้จะมีการใช้เครื่องนวดในการบางขั้นตอน แต่การทำโดยส่วนใหญ่ก็จะเน้นเป็นการนวดด้วยมือ หลังจากนั้นนวดเสร็จแล้ว ก็จะนำมาตัดแบ่งออกเป็นซาลาเปามากกว่าร้อยชิ้นในแต่ละวัน
แต่ขั้นตอนการนวดแป้งนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำซาลาเปาโบราณเท่านั้น สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งนอกจากแป้งสีเหลืองนวลแล้ว ไส้ต่างๆ ของทางร้านก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะแต่ละไส้ต่างก็มีกรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันเช่นเดียวกัน สำหรับซาลาเปาของทางร้านจะมีทั้งหมด 3 ไส้ คือ ไส้ถั่วหวานงา ไส้เผือกกวน และไส้หมูสับไข่เค็ม
สำหรับไส้โบราณแบบดั้งเดิมของทางร้านก็ต้องยกให้ไส้ถั่วหวานงา ที่ทางร้านเลือกใช้ถั่วเขียวกระเทาะเปลือก ที่จะมีกลิ่นหอมมากกว่าถั่วปกติ โดยจะเริ่มตั้งแต่แช่น้ำและนำไปนึ่ง แค่ขั้นตอนนี้ก็ใช้เวลาร่วมๆ 4 ชม. จากนั้นจะนำไปร่อนให้ละเอียด เมื่อได้ไส้ตามต้องการแล้ว ก็จะนำถั่วเขียวทั้งหมดไปกวนกับน้ำตาลทราย และน้ำมัน กวนจนมีสัมผัสที่เหนียวนุ่มเป็นอันใช้ได้ แต่ไส้นี้จะมีเคล็ดลับความอร่อยอีกเล็กน้อยตรงที่มีส่วนผสมของงา อากู๋เซ็งจะคั่วงาร้อนๆ ให้มีกลิ่นหอม จากนั้นจะนำงาไปผสมตอนใส่ไส้ เพื่อให้มีกลิ่นหอมที่ยาวนานก่อนถึงมือลูกค้า
ส่วนไส้เผือกก็จะมีขั้นตอนที่คล้ายๆ กัน คือเอาเผือกสดมานึ่งแล้วบด และนำมากวนเช่นเดียวกัน แต่เผือกจะมีความยากกว่าตรงที่เผือกจะไหม้ง่ายกว่าไส้ถั่วหวาน จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
และไส้สุดท้าย ไส้ที่ยอดนิยมที่สุด คือไส้หมูสับไข่เค็ม ซึ่งเป็นตัวชูโรงของซาลาเปาแต้จิ๋วเลยก็ว่าได้ เพราะความแตกต่างของซาลาเปาแต่ละประเภทจะอยู่ตรงไส้หมูนี่เอง อย่างเช่น ซาลาเปาฮกเกี้ยนจะมีไส้คล้ายๆ กับหมูพะโล้ ซาลาเปากวางตุ้งจะเป็นหมูแดง ส่วนแต้จิ๋วของทางร้านก็จะเป็นไส้หมูสับ รสชาติกลมกล่อม
สามารถอ่านรีวิวอาหารของเราต่อได้ที่ – https://howto4you.xyz/