รีวิว Dressage Horse Café คาเฟ่ม้า บรรยากาศแสนอบอุ่น พร้อมเมนูพิซซ่าอิตาเลียนแท้ @หมู่บ้านนักกีฬา
สถานที่พักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายของตัวเมือง หรือกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในวันนี้ Ryoiireview ขอแนะนำ Dressage Horse Café คาเฟ่ย่านรามคำแหง ซึ่งเป็นคาเฟ่ม้าที่เติบโตจากการเป็นโรงเรียนสอนศิลปะการบังคับม้า หรือ Dressage Horse อันเป็นที่ม้าของชื่อร้าน
เมื่อใครมาถึงก็จะได้เจอกับบรรยากาศร้านอบอุ่นเป็นกันเอง รายล้อมด้วยบรรดาน้องม้าหลายสิบตัว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งคาเฟ่ที่บรรยากาศดีไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกเหมือนออกไปเที่ยวไกลจากตัวเมือง และสำหรับใครที่อยากจะเติมเต็มความรู้สึกให้ใกล้ชิดกับน้องม้ามากกว่าเดิม ทางร้านก็ยังมีกิจกรรมดีๆ ให้เลือกทำกันอีกด้วยค่ะ หรือถ้าหากใครที่เป็นสายคาเฟ่เต็มตัว อยากจะนั่งชิลๆ ทางร้านก็ยังมีเมนูครบทั้งคาวหวานสไตล์อิตาเลียน-ฟิวชั่น และเครื่องดื่มหลากหลายพร้อมเสิร์ฟ
การเดินทาง
พิกัดร้านDressageHorseCaféตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนักกีฬา ซอยนักกีฬาแหลมทอง 12 สามารถเดินทางมาได้จากถนนกรุงเทพกรีฑา เบี่ยงซ้ายเข้าซอยนักกีฬาแหลมทอง เลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยนักกีฬาแหลมทอง 12 และเลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่ซอยนักกีฬาแหลมทอง 4 แยก 1 จะเจอร้านDressageHorseCaféอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
ถ้าหากต้องการที่จอดรถสามารถจอดได้ที่หน้าร้าน ซึ่งรองรับได้ประมาณ 4-5 คัน โดยที่ร้านจะมีทางเข้า 2 จุด คือ ทางเข้าออฟฟิศโรงเรียนสอนขี่ม้า และทางเข้าคาเฟ่ สำหรับใครที่ต้องการไปที่คาเฟ่โดยตรงสามารถเข้าประตูทางขวาได้เลยค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน
เมื่อมาถึงร้านกันแล้วก็จะได้เจอกับบรรยากาศร้านที่มีทั้งสนามขี่ม้า และคาเฟ่ในที่เดียว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่พร้อมจะตอบโจทย์ลูกค้าหลายกลุ่มวัยตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ เพราะมีบรรยากาศอบอุ่น และกิจกรรมให้ทำหลากหลาย โดยตัวร้านจะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนคาเฟ่, โซนสนามม้า คอกม้า และโซนออฟฟิศค่ะ
ขอเริ่มต้นกันด้วยโซนคาเฟ่กันก่อนเลย! โซนนี้หลังจากเข้ามาทางประตูขวามือแล้ว ก็จะได้เจอกับน้องม้าคอยต้อนรับ จุดนี้ก็จะได้มองเห็นความเป็นคาเฟ่ม้ากันแบบเบาๆ และเมื่อเดินเข้ามาในส่วนของคาเฟ่แล้ว ที่ร้านก็จะมีที่นั่งให้เลือก 2 โซนด้วยกัน คือ โซนด้านในห้องปรับอากาศ ในโซนนี้จะเน้นความ Cozy นั่งชิลๆ เป็นกันเอง เหมาะสำหรับใครที่เน้นนั่งชิลกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็นม้าอยู่บ้าง จากการประดับตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้หนังให้คล้ายกับอานม้าค่ะ
และโซนด้านนอก Open air โซนนี้จะเน้นให้ลูกค้าได้เห็นบรรยากาศของสนามม้ามากยิ่งขึ้น และยังมีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ยาวให้คล้ายกับการดูแข่งม้าแบบจริงๆ ด้วย ต้องขอบอกว่าทางร้านเขาเก็บรายละเอียดครบทุกจุดจริงๆ ค่ะ
ถัดมา คือ โซนสนามม้า และคอกม้า โซนนี้จะอยู่ด้านนอก โดยสนามม้าจะมีทั้งสนามเล็กและสนามใหญ่ สำหรับใครที่สนใจจะเรียนขี่ม้า ก็จะได้ลองขี่กันที่นี่เลยค่ะ แต่ถ้าหากใครอยากจะเน้นเก็บบรรยากาศ ที่ร้านก็จะมีบริเวณคอกม้าให้ได้เดินดูม้ากัน ซึ่งม้าที่นี่มีมากถึง 34 ตัว แถมแต่ละตัวก็น่ารักมากๆ รับประกันว่าใครที่ชอบม้าน่าจะถูกใจแน่นอน
นอกจากนี้ที่ร้านยังมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายที่น่าจะตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะมีทั้งกิจกรรมเรียนขี่ม้า และให้อาหารม้า หรือถ้าหากใครไปที่ร้านตั้งแต่ช่วงเช้า ก็อาจจะได้เห็นบรรยากาศม้าแต่ละตัวออกมาเดินยืดเส้นยืดสายที่สนามกันบ้างค่ะ ซึ่งในทุกๆ กิจกรรมก็จะมีผู้ดูแลไปกับเราด้วย เพื่อที่จะคอยดูแล และให้คำแนะนำในการทำกิจกรรมร่วมกับม้าแต่ละตัวค่ะ
และโซนสุดท้าย คือ โซนออฟฟิศและห้องดนตรี จะเป็นส่วนด้านหน้าสุดถัดจากคาเฟ่ไปค่ะ (เข้าประตูทางซ้าย) ส่วนนี้จะเป็นส่วนสำหรับคนที่สนใจมาเรียนขี่ม้า หรือเรียนเปียโนที่นี่ และถ้าหากใครที่สนใจสามารถลองสอบถามกับทางร้านได้เลยค่ะ
สามารถติดตามการรีวิวอื่นๆของเราต่อได้ที่ – https://howto4you.xyz/