รีวิว Sabu Yakiniku (ซาบุ ยากินิกุ) เนื้อย่างพรีเมียมต้นตำรับจากญี่ปุ่นย่านสุขุมวิท ใกล้ BTS ทองหล่อ @Hotel Nikko Bangkok
ใครที่กำลังมองหาร้านยากินิกุต้องไม่พลาดกับร้าน Sabu Yakiniku (ซาบุ ยากินิกุ) ร้านเนื้อย่างพรีเมียมส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้นำสไตล์การทานเนื้อแบบดั้งเดิมจากสาขาญี่ปุ่นส่งตรงถึงไทยเลยทีเดียว ความพิเศษของทางร้านจะอยู่ตรงที่มีการคัดเลือกเนื้อวัวและส่งออกจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเนื้อวัวสายพันธุ์ดีที่ไม่เคยส่งออกนอกประเทศญี่ปุ่นมาก่อน อีกทั้งยังมีการดูแลโดยชาวญี่ปุ่นอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนอีกด้วย! ต้องขอบอกว่าใครที่ชื่นชอบเนื้อวัวแบบพรีเมียมนั้นพลาดไม่ได้เลยค่า
การเดินทาง
ร้าน Sabu Yakiniku อยู่ในโซนกินซ่า ทองหล่อ (Ginza Thonglor) ชั้น 3 ของ Hotel Nikko Bangkok (โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพ) สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ ให้นั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีทองหล่อ (ทางออก 3) หรือหากใครมารถส่วนตัว สามารถขับมาจากถนนอโศกมนตรี เมื่อถึงแยกอโศกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุขุมวิท ขับตรงไปจนถึงซอยสุขุมวิท 55 จากนั้นเลี้ยวเข้าโรงแรมและนำรถไปจอดในโรงแรม และขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 3 เมื่อออกจากลิฟต์ให้เลี้ยวขวา พอเดินตรงมาอีกนิดให้เลี้ยวซ้ายจะเจอร้านค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน
เมื่อเข้าไปในร้านจะได้เจอกับร้านที่มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ทางร้านเลือกใช้โทนสีดำและตกแต่งด้วยไม้เน้นความเรียบง่ายสไตล์มินิมอลตามแบบฉบับของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ร้านมีความปลอดโปร่งโล่งสบายน่านั่ง โดยที่นั่งของแต่ละโต๊ะจะเป็นโซฟาไม้ต่อกัน แต่ละโต๊ะรองรับลูกค้าได้ทั้งหมด 4 คน โดยท้้งร้านสามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 60 คนค่ะ
เมนูและราคาอาหาร
ทางร้านจะเสิร์ฟเมนูยากินิกุแบบอลาร์คาร์ท เมนูหลักยากินิกุจะเป็นเนื้อวัววากิวยูกิฟูริ หรือหากใครที่ไม่ทานเนื้อทางร้านก็มีเนื้อหมูและเนื้อไก่พรีเมียมหมักซอสเป็นตัวเลือก นอกจากยากินิกุแล้วทางร้านยังมี อาหารจานหลัก (บะหมี่และข้าว) อาหารเรียกน้ำย่อย (ซุป, สลัดและของทานเล่น) และของหวานค่ะ
การทานยากินิกุของร้านมีความแตกต่างจากร้านอื่น เนื่องจากเป็นปิ้งย่างสไตล์ Momidare ตามแบบฉบับของสาขาที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการหมักซอสให้เข้าเนื้อก่อนนำมาย่างและทานคู่วาซาบิ ทางร้านจึงไม่มีการเสิร์ฟน้ำจิ้มใดๆ แต่ในส่วนของเนื้อวัวนั้นจะมีให้เลือกทั้งหมักซอสสูตรต้นตำรับจากญี่ปุ่นเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมจากตัวเนื้อเอง และหมักเกลือ ที่มีน้ำจิ้มให้ลูกค้าได้เลือกทานตามชอบ
นอกจากนี้ตัวเนื้อวัววากิวยูกิฟูริที่ทางร้านเลือกใช้ยังเป็นเนื้อวัวที่ส่งตรงมาจากเมืองโอบานาซาวา จังหวัดยามากะตะ ประเทศญี่ปุ่น จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัวเป็นอย่างดี เพราะมีสภาพอากาศเหมาะสำหรับการเพาะพันธุ์วัวโดยเฉพาะ จึงทำให้เนื้อวัวยูกิฟูริที่นำมาเสิร์ฟนั้นมีสัมผัสที่นุ่มแตกต่างจากเนื้อวัวทั่วไป ซึ่งต้องขอบอกอีกนิดนึงว่าเนื้อวัวยูกิฟูรินั้นไม่เคยส่งออกนอกประเทศมาก่อนอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ได้หาทานกันง่ายๆ เลยค่ะ
สำหรับเวลาในการเปิด-ปิดร้าน แบ่งเป็น 2 รอบในแต่ละวัน ได้แก่ ช่วงกลางวันเวลา 11.00-14.00 น. และช่วงเย็นเวลา 17.00-21.00 น. ทั้ง 2 ช่วงเวลาจะมีไลน์อาหารที่แตกต่างกันออกไปบ้าง โดยช่วงกลางวันจะมีบางเมนูที่เสิร์ฟมาเป็นเซตอาหารกลางวัน ใน 1 เซตจะมีอาหารจานหลัก สลัด น้ำซุปและของหวาน แต่ช่วงเย็นจะมีเพียงจานหลักเท่านั้น แต่หากใครต้องการสั่งเมนูอื่นๆ สามารถสั่งแยกได้ค่ะ
สามารถดูการรีวิวอื่นๆต่อได้ที่ – https://howto4you.xyz/